ในวัฒนธรรมไทยโบราณมีขนมหลากหลายชนิดที่มีรสชาติอร่อยและเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย ขนมเปียกปูนใบเตยเป็นหนึ่งในนั้น มันเป็นขนมที่มีความหอมหวานจากใบเตยและรสชาติละมุนละไมของข้าวเหนียว เรียกได้ว่าเป็นความผสมผสานที่ยอดเยี่ยมของส่วนผสมทั้งหมด ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปสู่วิธีทำขนมเปียกปูนใบเตย (ขนมไทยโบราณ) เพื่อให้คุณสามารถสร้างความอร่อยและสุขใจได้ในครอบครัวและเพื่อนฝูงของคุณ
วิธีทำขนมเปียกปูนใบเตย(ขนมไทยโบราณ)/How To Make Pandan Coconut Sweet Pudding/Sek Food & DIY [VIDEO]
ส่วนผสม
1.น้ำปูนใส 1.5 ลิตร
2.แป้งข้าวจ้าว 200 กรัม
3.น้ำตาลทราย 150 กรัม
4.น้ำตาลมะพร้าว 150 กรัม
5.เกลือป่น 1/2 ช้อนโต๊ะ(ถ้าเป็นเกลือปรุงทิพ ลดปริมาณเหลือ 1.5 – 2 ช้อนชา)
6.ใบเตย 15-20 ใบ
7.กะทิ 250 ml
8.น้ำปูนใส 1-2 ถ้วยตวงไว้สำหรับใส่ตอนกวนเปียกปูนอีกครั้งถ้าขนมยังไม่ร่อนค่อยๆทยอยใส่นะค่ะ
ตารางสารบัญ
- วัตถุดิบที่ต้องใช้
- ขั้นตอนการทำขนมเปียกปูนใบเตย
- เคล็ดลับในการทำขนมเปียกปูนใบเตย
- การเสิร์ฟขนมเปียกปูนใบเตย
- คำแนะนำเพิ่มเติม
- คำสรุป
วัตถุดิบที่ต้องใช้
- 2 ถ้วยข้าวเหนียว
- 1 ถ้วยน้ำตาลทราย
- 1/2 ถ้วยน้ำมะพร้าว
- 1/2 ช้อนชาเกลือ
- 10-15 ใบเตยสด
ขั้นตอนการทำขนมเปียกปูนใบเตย
- แช่ข้าวเหนียวในน้ำเปล่าเป็นเวลา 2-3 ชั่วโมง หลังจากนั้นให้นำข้าวเหนียวที่แช่น้ำออกมาตั้งไว้ให้แห้งเล็กน้อย
- นำข้าวเหนียวมาตำให้ละเอียดด้วยเครื่องทำข้าวเหนียวหรือค้อนไม้
- เทข้าวเหนียวลงในภาชนะที่มีฝาปิด และนำไปต้มในหม้อหุงข้าวอย่างช้าๆ เพื่อให้ข้าวเหนียวสุกเหนียว
- ในเวลาที่ข้าวเหนียวกำลังต้ม ให้เตรียมใบเตยโดยการล้างใบเตยให้สะอาด
- เมื่อข้าวเหนียวสุกแล้ว นำออกจากเตาและเปิดฝาภาชนะ ตักข้าวเหนียวใส่ชามและปล่อยให้เย็น
- ในเวลาที่ข้าวเหนียวเย็นอยู่ ให้เตรียมน้ำตาลทราย น้ำมะพร้าว และเกลือโดยการผสมเข้าด้วยกัน และนำไปต้มให้น้ำตาลทรายละลาย และเกลือละลายในน้ำมะพร้าว
- หลังจากน้ำตาลทรายละลายและเกลือละลายในน้ำมะพร้าวแล้ว ให้ปิดไฟและปล่อยให้น้ำหวานเย็นลง
- ในขณะที่ข้าวเหนียวยังอุ่นอยู่ ให้เตรียมใบเตยไว้
- นำข้าวเหนียวที่อุ่นมาเกลี่ยในน้ำมะพร้าวที่ผสมน้ำตาลทรายและเกลือไว้
- นำใบเตยมาห่อข้าวเหนียวให้แนบรวมกัน และใช้เข้าคลุมข้าวเหนียวด้านบน
- ทำข้าวเหนียวในรูปแบบเดียวกันตามขั้นตอนข้างบนจนกว่าข้าวเหนียวจะหมด
- เมื่อทำขนมเปียกปูนใบเตยเสร็จสิ้นแล้ว ให้ปิดฝาภาชนะให้สนิทและนำไปเก็บในตู้เย็นเพื่อให้ขนมสดนานขึ้น
เคล็ดลับในการทำขนมเปียกปูนใบเตย
- การเลือกใช้ข้าวเหนียวคุณภาพดีจะทำให้ขนมเปียกปูนใบเตยมีความหนึบและนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น
- ในการตำข้าวเหนียวให้ละเอียด ควรเริ่มต้นจากข้าวเหนียวที่แห้งให้แตกต่างจากข้าวเหนียวที่มีความชื้นอยู่
- เมื่อต้มข้าวเหนียว ควรใช้ไฟอ่อนๆ เพื่อให้ข้าวเหนียวสุกเหนียวทั่วไปและไม่เป็นค่อย
- ควรเลือกใช้ใบเตยสดแท้ที่สดใหม่ เพื่อให้ได้รสชาติและกลิ่นหอมที่ดีที่สุด
- หากไม่สะดวกที่จะห่อข้าวเหนียวด้วยใบเตย สามารถใช้แผ่นหนังหมา เครื่องครัว หรือฟอยล์อาหารแทนได้
การเสิร์ฟขนมเปียกปูนใบเตย
ขนมเปียกปูนใบเตยเป็นขนมที่สามารถเสิร์ฟให้คนอื่นได้ในโอกาสพิเศษหรืองานเลี้ยง คุณสามารถเสิร์ฟขนมเปียกปูนใบเตยได้โดยนำขนมออกจากภาชนะที่เก็บไว้และวางลงบนจานหรือถาด เพื่อให้ผู้รับประทานได้เลือกและทานได้ตามต้องการ
คำแนะนำเพิ่มเติม
- เพื่อให้ขนมเปียกปูนใบเตยมีความสดชื่นนานยิ่งขึ้น ควรเก็บข้าวเหนียวในภาชนะที่มีฝาปิดให้สนิท และเก็บในตู้เย็น
- สามารถเพิ่มสีสันให้กับขนมเปียกปูนใบเตยได้โดยการใช้วัตถุดิบตามความชอบ เช่น ใบชาเขียว อัลมอนด์ หรือใบเตยตามสีที่ต้องการ
- เมื่อเสร็จสิ้นการทำขนมเปียกปูนใบเตย ควรรับประทานในวันเดียวกันหรือเก็บในตู้เย็นไม่เกิน 2-3 วัน
คำสรุป
ขนมเปียกปูนใบเตยเป็นขนมไทยโบราณที่มีรสชาติหอมหวานจากใบเตยและข้าวเหนียว การทำขนมเปียกปูนใบเตยไม่ยากเลยและสามารถทำได้ที่บ้านด้วยวัตถุดิบที่ง่ายต่อการหา คุณสามารถเสิร์ฟขนมเปียกปูนใบเตยให้กับครอบครัวและเพื่อนฝูงของคุณในโอกาสพิเศษหรืองานเลี้ยงต่างๆ อย่างแน่นอนขนมเปียกปูนใบเตยจะเป็นเครื่องดื่มที่ยอดเยี่ยมที่ทุกคนต้องชื่นชอบ
FAQs (คำถามที่พบบ่อย)
- ขนมเปียกปูนใบเตยสามารถเก็บไว้นานเท่าไหร่ได้?
- คุณสามารถเก็บขนมเปียกปูนใบเตยในตู้เย็นได้ไม่เกิน 2-3 วัน
- สามารถใช้ใบเตยแห้งแทนใบเตยสดได้หรือไม่?
- ใบเตยสดจะมีรสชาติและกลิ่นหอมที่ดีที่สุด แต่หากไม่สะดวกสามารถใช้ใบเตยแห้งแทนได้
- สามารถใช้น้ำมะพร้าวกระป๋องแทนน้ำมะพร้าวสดได้หรือไม่?
- น้ำมะพร้าวกระป๋องอาจไม่มีรสชาติและกลิ่นที่เข้มข้นเหมือนน้ำมะพร้าวสด แต่สามารถใช้แทนได้หากไม่มีในที่นั้น
- สามารถเพิ่มสีสันให้กับขนมเปียกปูนใบเตยได้ไหม?
- ใช่ คุณสามารถเพิ่มสีสันให้กับขนมเปียกปูนใบเตยได้โดยการใช้วัตถุดิบตามความชอบ เช่น ใบชาเขียว อัลมอนด์ เป็นต้น
- ขนมเปียกปูนใบเตยเป็นอาหารที่มีประโยชน์อย่างไร?
- ขนมเปียกปูนใบเตยมีข้าวเหนียวที่เป็นแหล่งพลังงานและใบเตยที่มีสารอาหารอย่างคาร์โบไฮเดรต นอกจากนี้ยังมีส่วนประกอบอื่นๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเช่น แคลเซียม ฟอสฟอรัส และวิตามิน