สวัสดีทุกท่านที่รักในการทำอาหารและความอร่อย! วันนี้เรามีเมนูอาหารไทยที่เป็นที่รู้จักและนิยมอย่างแพร่หลายมาฝากกันคือ “ต้มเล้งแซ่บ” ไม่ว่าจะเป็นในงานเลี้ยงหรือในช่วงหน้าหนาว ต้มเล้งแซ่บเป็นเมนูที่ไม่เคยลดละเอียดในฐานะเมนูเล็กน้อยแต่ยิ่งแล้วกับความอร่อยที่เต็มไปด้วยรสชาติเผ็ด-เปรี้ยว-หอม พร้อมกับความสดชื่นจากผักสดที่ใส่เข้าไปด้วย มาเริ่มต้มเล้งแซ่บกันเถอะ!
เมื่อพูดถึงอาหารไทยที่มีรสชาติเปรี้ยว-เผ็ด-หอม เมื่อไรก็ต้องนึกถึง “ต้มเล้งแซ่บ” กันทุกครั้ง เนื่องจากเป็นเมนูที่เป็นที่นิยมและรับประทานได้ทั่วไปทั้งในวงการอาหารและประชากรทั่วไป ซึ่งนอกจากจะมีรสชาติเข้มข้นแล้ว ยังมีวัตถุดิบที่สามารถหาได้ง่ายและทำได้ง่ายในบ้านด้วย
วัตถุดิบที่ใช้ทำ “ต้มเล้งแซ่บ”
- กระดูกเล้ง 500 กรัม
- น้ำสะอาด 2 ½ ลิตร
- เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียม 3 กลีบ
- รากผักชี 1 ราก
- พริกไทย 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกขี้หนูสวนสีเขียว 15 เม็ด
- น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
- ผักชีฝรั่ง 2 ต้น
ขั้นตอนการทำ “ต้มเล้งแซ่บ”
- การเตรียมกระดูกเล้ง: ในขั้นตอนนี้ เริ่มต้นด้วยการล้างกระดูกเล้งให้สะอาด เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกและเชื้อโรคที่อาจจะติดมากับกระดูก หลังจากนั้นจึงผึ่งกระดูกเล้งให้แห้ง การผึ่งจะช่วยให้กระดูกเล้งมีลักษณะที่กรอบและมีกลิ่นหอม
- การเตรียมเครื่องเจียว: ในขั้นตอนนี้จะมีการบุบรากผักชีและกระเทียมเพื่อให้กลิ่นหอมของทั้งสองออกมา จากนั้นจึงนำกระดูกเล้งลงในหม้อและเทน้ำเปล่าลงไปพอท่วม จากนั้นเริ่มเคี่ยวน้ำซุปด้วยไฟอ่อน ๆ ประมาณ 2 ชั่วโมง โดยต้องคอยตักฟองออกตลอดเวลา
- การปรุงรสชาติ: ในขั้นตอนสุดท้าย หลังจากที่น้ำซุปเริ่มมีรสชาติที่เข้มข้นและหอมมัน เราจะเตรียมเครื่องต้มแซ่บโดยการโรยพริกขี้หนูสวนลงไปในกระดูกเล้ง และใส่พริกไทยเม็ด ปรุงรสด้วยน้ำปลาและมะนาว เพื่อให้ได้รสชาติที่เปรี้ยว-เผ็ด-หอม ที่ต้องการ
หมายเหตุและเคล็ดลับเกี่ยวกับวิธีการทำ
- เลือกใช้กระดูกเล้งที่มีไขมันน้อย: การเลือกใช้กระดูกเล้งที่มีไขมันน้อยจะช่วยลดความมันของน้ำซุปและทำให้รสชาติของเมนูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
- การปรุงรสชาติตามความชอบ: สามารถปรับปรุงรสชาติของน้ำซุปได้ตามความชอบโดยเพิ่มหรือลดปริมาณของส่วนผสม เช่น พริกขี้หนูสวนหรือน้ำปลา เพื่อให้ได้รสชาติที่ตรงตามความพอใจ
- การใส่เครื่องเจียวในเวลาที่เหมาะสม: การใส่เครื่องเจียวในเวลาที่เหมาะสมและการเคี่ยวน้ำซุปให้เป็นเวลาพอเหมาะ จะช่วยให้รสชาติและกลิ่นของเมนูมีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น
- การเสิร์ฟให้ร้อน: เมื่อเสิร์ฟ “ต้มเล้งแซ่บ” ควรเสิร์ฟให้ร้อน ๆ เพื่อเพิ่มความอร่อยและช่วยให้รสชาติของน้ำซุปดูเข้มข้นมากยิ่งขึ้น
- การเสิร์ฟพร้อมผักสด: การเสิร์ฟ “ต้มเล้งแซ่บ” พร้อมผักสด เช่น ผักชีฝรั่งหรือผักชี เพื่อเพิ่มความสดชื่นและความหอมหวานให้กับเมนู