ยิ่งใกล้เข้าสู่ฤดูร้อน ในใจของคนไทยหลายคนคงสบายใจกันได้แล้ว เพราะมะม่วงเป็นผลไม้ที่รอคอยกันมาตั้งแต่ต้นฤดูหนาว และเมื่อมะม่วงมาถึงช่วงของฤดูร้อน ไม่ว่าจะเป็น “มะม่วงแตงโม”, “มะม่วงนำ้ดอกไม้”, “มะม่วงกอ”, หรือ “มะม่วงเขียวหวาน” ก็ย่อมมีแต่ความสดชื่นและความหอมหวานที่คาดหวัง แต่ว่านอกจากการกินมะม่วงสดๆ แล้ว คุณเคยลองทำสูตรมะม่วงแช่อิ่ม (มะม่วงแช่อิ่ม) หรือยังคะ? หากคุณยังไม่เคยลอง ในบทความนี้เราจะนำเสนอสูตรการทำมะม่วงแช่อิ่ม (มะม่วงแช่อิ่ม) ของเครือพิศพิไลให้คุณได้ลองทำกัน!
สูตรมะม่วงแช่อิ่ม (มะม่วงแช่อิ่ม) | เครือพิศพิไล [VIDEO]
✅ส่วนผสม
– มะม่วง 6 กก
– เกลือ 240 ก
– น้ำมะนาว
– น้ำสะอาด
✅ส่วนผสมของน้ำหมัก
– น้ำสะอาด 1500 มล.
– น้ำตาลทราย 1,000 กรัม
– เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
– ผลพุด (หรือสีผสมอาหารสีเหลือง)
✅วิธีทำ
เริ่มจากเตรียมมะม่วงล้างน้ำ จากนั้นปอกเปลือกออกแล้วล้างให้สะอาด แล้วหั่นเป็นชิ้นๆให้หนาพอประมาณ
.
จากนั้นเตรียมน้ำสะอาด 2-3 ลิตร และเกลือป่น แล้วคนให้ละลาย นำมะม่วงไปแช่น้ำเกลือ ถึงมะม่วงน้ำดอกไม้. และสิ่งที่ยากจะท่วมมะม่วงให้เค็ม แช่น้ำ1คืน.
.
แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด 2-3 ครั้ง แล้วนำมะม่วงแช่น้ำปูนใสต่ออีก 1 คืน
.
มะม่วงที่แช่น้ำปูนใส 1 คืนจะแข็งกว่าเล็กน้อย ล้างน้ำเปล่า 2-3 ครั้ง หรือจนกว่าน้ำจะใส
.
น้ำเชื่อมเดือดสำหรับดองน้ำมะม่วง. ใส่น้ำสะอาดที่จะต้มผลพุดลงไปต้มประมาณ 2-3 นาที หรือจนเหลืองดี ใส่เกลือ และน้ำตาลทราย ใจเย็น.
.
นำมะม่วงใส่กล่องที่มีฝาปิด เทน้ำเชื่อมที่เตรียมไว้ลงไป กดมะม่วงให้จมน้ำเชื่อม. ปิดฝานำเข้าแช่เย็น 2 คืน
.
ผ่านไป 2 คืน ลองชิมมะม่วงดูออกเปรี้ยวนิดๆ ทำหวานได้นิดหน่อยแล้วสะเด็ดน้ำเชื่อมใส่น้ำตาลประมาณ 1 ถ้วย รอจนเย็นแล้วแช่มะม่วงทำแบบนี้จนได้ความหวานตามต้องการ
2. ส่วนประกอบของสูตรมะม่วงแช่อิ่ม
ส่วนประกอบที่ต้องใช้ในการทำมะม่วงแช่อิ่ม (มะม่วงแช่อิ่ม) มีดังนี้:
2.1 มะม่วงสุก
เลือกใช้มะม่วงสุกที่สุกและหวานที่สุดเท่าที่จะหาได้ เพื่อให้ได้รสชาติที่หอมหวานอร่อยที่สุดในการทำมะม่วงแช่อิ่ม
2.2 น้ำตาลปี๊บ
น้ำตาลปี๊บเป็นส่วนประกอบที่ทำให้มะม่วงแช่อิ่มมีรสหวานเข้มข้นและน่าหลงใหล
2.3 น้ำสะอาด
ใช้น้ำสะอาดในการแช่มะม่วงเพื่อให้ความหอมและรสชาติของมะม่วงไม่ถูกบดบัง
2.4 เกลือ
เกลือถูกใช้เพื่อเพิ่มรสชาติความหอมของมะม่วงแช่อิ่ม
3. ขั้นตอนการทำสูตรมะม่วงแช่อิ่ม
3.1 การหั่นมะม่วง
- ล้างมะม่วงให้สะอาดและหั่นเป็นชิ้นเต๋าเล็กๆ โดยควรเลือกใช้มะม่วงที่สุกและหวานมากที่สุด
3.2 การเติมน้ำตาลปี๊บ
- นำมะม่วงที่หั่นเตรียมไว้ใส่ในอ่างหรือถ้วยใส่น้ำ
- เติมน้ำตาลปี๊บลงไปในอ่างหรือถ้วยที่ใส่มะม่วง โดยให้น้ำตาลปี๊บเป็นระดับสูงสุดของน้ำ
3.3 การแช่มะม่วง
- นำมะม่วงที่อยู่ในน้ำตาลปี๊บไว้แช่ทิ้งไว้ในตู้เย็นเป็นเวลาอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง หรือจนกว่ามะม่วงจะเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองอมเขียว
3.4 การเติมน้ำสะอาดและเกลือ
- เมื่อมะม่วงได้รับการแช่แล้วให้นำมะม่วงออกมาจากน้ำตาลปี๊บ
- เติมน้ำสะอาดใหม่เข้าไปแช่อีกครั้งเพื่อให้มะม่วงไม่มีความขมขื่นจากน้ำตาลปี๊บ
- เติมเกลือเล็กน้อยลงในน้ำที่ใส่มะม่วง เพื่อเพิ่มรสชาติความหอมของมะม่วงแช่อิ่ม
แนะนำวิธีเลือกมะม่วงที่สุกและหอม
การเลือกซื้อมะม่วงที่สุกและหอมเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้คุณได้รับรสชาติที่อร่อยและคุณภาพที่ดีของผลไม้นี้ ด้วยเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ คุณจะสามารถเลือกมะม่วงที่ดีที่สุดได้ง่ายๆ ตามขั้นตอนดังนี้:
- ตรวจสอบสีผิวของมะม่วง
- มะม่วงที่สุกและหอมมักจะมีสีเหลืองอมส้มหรือสีทองแกมสีเขียวอ่อน ควรหลีกเลี่ยงมะม่วงที่มีสีเขียวเข้มหรือสีเขียวมาก เพราะอาจยังไม่สุกอย่างเพียงพอ
- ตรวจสอบความนุ่มของผิว
- เมื่อนำมือกดบนผิวมะม่วง ควรรู้สึกได้ถึงความนุ่มนวล และไม่มีความแข็ง หากมีความแข็งแสดงว่ายังไม่สุก
- ตรวจสอบกลิ่น
- มะม่วงที่สุกและหอมมักจะมีกลิ่นหอมหวานที่เข้ามาในจมูก ควรเลือกมะม่วงที่มีกลิ่นหอมหวานเพื่อความอร่อยที่ดีของผลไม้
- ดูก้าน
- ควรตรวจสอบก้านของมะม่วงว่ายังคงสดอยู่และไม่แห้ง ถ้าก้านยังคงสีเขียวและสดใหม่แสดงว่ามะม่วงสุกและสดใหม่
- ทัชเทสต์ความนิ่มของเนื้อ
- ควรแตะทัชเทสต์เนื้อมะม่วงด้วยนิ้วโป้งเบาๆ ถ้าเนื้อนุ่มนวลและค่อนข้างยืดหยุ่นแสดงว่ามะม่วงสุกและกรอบ
โดยปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้ คุณจะสามารถเลือกซื้อมะม่วงที่สุกและหอมที่สุดเพื่อเพิ่มความอร่อยให้กับสูตรมะม่วงแช่อิ่ม (มะม่วงแช่อิ่ม) ที่คุณจะทำ!
สูตรอร่อยสำหรับการทำมะม่วงแช่อิ่ม
มะม่วงแช่อิ่มเป็นอาหารสดชื่นที่มีรสชาติหวานอ่อน หอมหวาน และนุ่มนวลที่สร้างความสนุกและความหอมหวานให้กับคนที่รับประทาน การทำมะม่วงแช่อิ่มไม่ยุ่งยากและสามารถทำเองที่บ้านได้ง่ายๆ ด้วยสูตรง่ายๆ ตามนี้เลยค่ะ:
ส่วนประกอบ:
- มะม่วงสุก 2-3 ลูก (ชนิดใดก็ได้ที่คุณชอบ)
- น้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วย
- น้ำสะอาด 2 ถ้วย
- เกลือเล็กน้อย (ตามชอบ)
ขั้นตอนการทำ:
- หั่นมะม่วง
- ล้างมะม่วงให้สะอาดและหั่นเป็นชิ้นเต๋าเล็กๆ โดยควรเลือกใช้มะม่วงที่สุกและหวานมากที่สุด
- แช่มะม่วง
- นำมะม่วงที่หั่นเตรียมไว้ใส่ในอ่างหรือถ้วยใส่น้ำ
- เติมน้ำตาลปี๊บลงไปในอ่างหรือถ้วยที่ใส่มะม่วง โดยให้น้ำตาลปี๊บเป็นระดับสูงสุดของน้ำ
- แช่ในตู้เย็น
- นำมะม่วงที่อยู่ในน้ำตาลปี๊บไว้แช่ทิ้งไว้ในตู้เย็นเป็นเวลาอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง หรือจนกว่ามะม่วงจะเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองอมเขียว
- เติมน้ำสะอาดและเกลือ
- เมื่อมะม่วงได้รับการแช่แล้วให้นำมะม่วงออกมาจากน้ำตาลปี๊บ
- เติมน้ำสะอาดใหม่เข้าไปแช่อีกครั้งเพื่อเอาออกความหวานของน้ำตาลปี๊บ
- เพิ่มเกลือเล็กน้อยลงในน้ำที่ใส่มะม่วงเพื่อเพิ่มรสชาติความหอมของมะม่วงแช่อิ่ม
เมื่อทำตามขั้นตอนทั้งหมดแล้ว มะม่วงแช่อิ่มก็พร้อมที่จะรับประทานแล้วค่ะ ลองทำสูตรนี้เองแล้วสัมผัสความหอมหวานและความสดชื่นของมะม่วงแช่อิ่มกันเถอะ!
เก็บรวบรวมเคล็ดลับในการแช่มะม่วงอย่างถูกต้อง
การแช่มะม่วงเป็นวิธีการเก็บรักษาและเพิ่มความอร่อยให้กับมะม่วงในช่วงฤดูร้อนที่น่าสนุกและง่ายที่สุด อย่างไรก็ตาม การแช่มะม่วงอาจต้องใช้เทคนิคและเคล็ดลับบางอย่างเพื่อให้ได้มะม่วงที่สุกสมบูรณ์และอร่อยที่สุด นี่คือเคล็ดลับในการแช่มะม่วงอย่างถูกต้อง:
- เลือกใช้มะม่วงที่สุกและหอมมากที่สุด
- มะม่วงที่สุกและหอมมักจะมีรสชาติและกลิ่นหอมหวานที่เข้าคอ ควรเลือกใช้มะม่วงที่สุกที่สุดเพื่อให้ได้รสชาติที่อร่อยที่สุด
- การหั่นมะม่วง
- หั่นมะม่วงเป็นชิ้นเต๋าเล็กๆ เพื่อให้มะม่วงสามารถดูดน้ำตาลและรสชาติในขั้นตอนการแช่ได้ดีที่สุด
- ใช้น้ำตาลปี๊บเพื่อเพิ่มรสหวาน
- การเติมน้ำตาลปี๊บในน้ำในขั้นตอนการแช่ช่วยเพิ่มความหวานและรสชาติให้กับมะม่วง
- ใช้น้ำสะอาดในการแช่
- ควรใช้น้ำสะอาดในการแช่มะม่วงเพื่อให้ความหอมและรสชาติของมะม่วงไม่ถูกบดบัง
- เติมเกลือเพื่อเพิ่มความหอม
- เกลือเล็กน้อยที่ใส่เข้าไปในน้ำในขั้นตอนการแช่ช่วยเพิ่มรสชาติความหอมของมะม่วงแช่อิ่ม
- การเก็บรักษาในตู้เย็น
- หลังจากการแช่มะม่วงเสร็จสิ้น ควรเก็บมะม่วงที่แช่ไว้ในตู้เย็นเพื่อรักษาความสดชื่นและความหอม
- ควบคุมเวลาการแช่
- การแช่มะม่วงไม่ควรนานเกินไป เพราะอาจทำให้มะม่วงเน่าหรือเสียหายได้
- ใช้บริเตนเพื่อให้มะม่วงสีสวย
- หากต้องการให้มะม่วงมีสีสวยงาม ควรใช้บริเตนในขั้นตอนการแช่
- ลองใช้ผสมผสานกับส่วนผสมอื่นๆ
- ลองส่วนผสมผสานมะม่วงแช่อิ่มกับน้ำอัดลม หรือน้ำเปล่า หรือแม้แต่ใส่เข้าไปในขนมของคุณ
ด้วยเคล็ดลับเหล่านี้ การแช่มะม่วงอิ่มจะเป็นไปได้อย่างสนุกสนานและไม่ยุ่งยาก ลองนำไปใช้ในการทำสูตรมะม่วงแช่อิ่มของคุณเองและตามความชอบได้เลยค่ะ!
4. สรุปผล
สูตรมะม่วงแช่อิ่ม (มะม่วงแช่อิ่ม) เป็นสูตรที่น่าสนใจและง่ายต่อการทำที่สามารถทำเองที่บ้านได้ มะม่วงแช่อิ่มจะมีรสชาติหวานนุ่ม มีกลิ่นหอมอร่อยที่คุณไม่ควรพลาด ควรลองทำและลิ้มรสความอร่อยของมะม่วงแช่อิ่มในฤดูร้อนนี้เอง!
Frequently Asked Questions (FAQs)
- ความถูกต้องของสูตรมะม่วงแช่อิ่มมีความเปลี่ยนแปลงหรือไม่?
- สูตรมะม่วงแช่อิ่มของเครือพิศพิไลมีความถูกต้องและเสถียร คุณสามารถทำตามขั้นตอนในบทความได้เลยโดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไร
- มะม่วงที่เหมาะสำหรับสูตรนี้คือชนิดไหน?
- ควรเลือกใช้มะม่วงที่สุกและหวานมากที่สุด สามารถใช้ชนิดต่างๆ เช่น “มะม่วงแตงโม”, “มะม่วงนำ้ดอกไม้”, “มะม่วงกอ”, หรือ “มะม่วงเขียวหวาน” ก็ได้
- อายุการแช่ของมะม่วงควรเป็นเท่าใด?
- ควรแช่มะม่วงเป็นเวลาอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง หรือจนกว่ามะม่วงจะเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองอมเขียว
- สามารถใช้น้ำตาลอื่นแทนน้ำตาลปี๊บได้หรือไม่?
- สามารถใช้น้ำตาลปี๊บหรือน้ำตาลอื่นๆ แทนกันได้ แต่น้ำตาลปี๊บจะให้รสชาติหวานเข้มข้นและน่าหลงใหลมากกว่า
- ควรเก็บมะม่วงแช่อิ่มในที่เย็นร้อนอย่างไร?
- ควรเก็บมะม่วงแช่อิ่มในตู้เย็นเพื่อรักษาความสดชื่นและความหอม สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้ประมาณ 2-3 วัน